หากยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์แล้ว ก็ข้ามขั้นตอนแรกและไปตรวจสอบข้อมูลเว็บไซต์ใน Search Console ได้เลย
สิ่งที่คุณจะต้องมี
- ความสามารถในการยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์โดยใช้เทคนิค เช่น การเพิ่มไฟล์ในไดเรกทอรีราก การสร้างแท็ก
meta
หรือการเป็นเจ้าของบัญชีผู้ดูแลระบบ Google Analytics ของเว็บไซต์
สิ่งที่คุณจะต้องทำ
ในส่วนนี้ คุณจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
- ยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์ใน Search Console
- ตรวจสอบว่าแฮ็กเกอร์ยังไม่ได้ยืนยันการเป็นเจ้าของใน Search Console และเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ไม่ต้องการ
- ระบุลักษณะของการโจมตี
ยืนยันการเป็นเจ้าของไซต์ใน Search Console
- เปิดเบราว์เซอร์และไปที่ศูนย์กลางผู้ดูแลเว็บ
- คลิก Search Console
- ลงชื่อเข้าใช้ Search Console ด้วยบัญชี Google หากคุณไม่มีบัญชี Google ให้คลิกสร้างบัญชี การสร้างบัญชี Google ใหม่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสูญเสียบัญชีอีเมลที่มีอยู่กับอีกบริษัทหนึ่ง (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชี)
- คลิกเพิ่มเว็บไซต์ พิมพ์ URL ของเว็บไซต์ลงในช่อง แล้วคลิกต่อไป
- เลือกวิธียืนยันที่สะดวกที่สุดสำหรับคุณ แท็บวิธีการที่แนะนำในหน้าการยืนยันจะแสดงวิธีการที่ Google คิดว่าดีที่สุด วิธีการอื่นๆ จะแสดงอยู่ในแท็บวิธีการอื่น (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยัน)
- นำเว็บไซต์ของคุณกลับมาออนไลน์หากคุณเลือกวิธีการยืนยันที่ต้องเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ เช่น เมตาแท็ก HTML หรือไฟล์ HTML
- คลิกยืนยันเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของโดยใช้วิธีที่คุณเลือก หากการยืนยันเสร็จสมบูรณ์ คุณจะเห็นหน้าจอแสดงความยินดีที่แจ้งว่าคุณเป็นเจ้าของที่ผ่านการยืนยันแล้ว คุณสามารถทำให้เว็บไซต์กลับเป็นออฟไลน์อีกครั้ง แต่คุณจะต้องนำเว็บไซต์กลับมาออนไลน์อีกในขั้นตอนต่อๆ ไป
ตรวจสอบว่าแฮ็กเกอร์ยังไม่ได้ยืนยันการเป็นเจ้าของ
หลังจากที่ยืนยันแล้ว ให้ตรวจสอบว่าแฮ็กเกอร์ยังไม่ได้ยืนยันการเป็นเจ้าของใน Search Console และเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ไม่ต้องการ
- ไปที่หน้าแรกซึ่งเป็นหน้าหลักของ Search Console โดยคลิกโลโก้ Search Console
- ค้นหาไซต์ของคุณ แล้วคลิกจัดการไซต์
- คลิกเพิ่มหรือนำผู้ใช้ออก
- ตรวจสอบว่าผู้ใช้และเจ้าของทั้งหมดที่อยู่ในรายการได้รับอนุญาต
- จดที่อยู่อีเมลของผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาต (เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในอนาคต) แล้วลบผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์ของคุณ สำหรับเจ้าของที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องลบเจ้าของและโทเค็นการยืนยันที่อาจใช้ได้ เช่น เมตาแท็กการยืนยันในหน้าแรกหรือไฟล์ HTML บนเซิร์ฟเวอร์ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ไม่ต้องการใน Search Console คลิกไอคอนการตั้งค่า การตั้งค่าเว็บไซต์ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นของแฮ็กเกอร์ เช่น การลด อัตราการรวบรวมข้อมูล (อาจมีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงสไปเดอร์ของเครื่องมือค้นหา) รวมทั้งตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งผิดปกติแสดงอยู่ในส่วนดัชนีของ Google นำ URL ออก หรือ > แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ จากนั้นคลิก
ระบุลักษณะของการโจมตี
ข้อมูลใน "ศูนย์ข้อความ" และ "ปัญหาด้านความปลอดภัย" ใน Search Console สามารถช่วยคุณในการระบุว่าเว็บไซต์ของคุณถูกบุกรุกหรือไม่ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- มีเนื้อหาสแปมที่อาจลดคุณภาพและความเกี่ยวข้องของผลการค้นหา
- มีวัตถุประสงค์ในการฟิชชิง
- มีวัตถุประสงค์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์
ในการตรวจสอบการแฮ็กหรือมัลแวร์โดยใช้ Search Console ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ไปที่หน้าแรกของ Search Console โดยคลิกที่โลโก้ Search Console ที่มุมด้านบน
- คลิกข้อความ
- ตรวจสอบว่ามีข้อความสำคัญจาก Google เกี่ยวกับว่ามีการใช้เว็บไซต์ของคุณเพื่อ 1) แสดงหน้าเว็บ ข้อความ หรือลิงก์สแปม 2) ฟิชชิง 3) กระจายมัลแวร์ หากคุณได้รับการแจ้งเตือนฟิชชิง อย่าลบข้อความนี้จนกว่าคุณจะได้ดำเนินการตามกระบวนการกู้คืนทั้งหมดจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
- ไปที่ปัญหาด้านความปลอดภัยในเครื่องมือของผู้ดูแลเว็บ
- เว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบจากมัลแวร์จะมีคำว่า "มัลแวร์" แสดงอยู่ที่ส่วนหัวระดับบนสุด และตามด้วยหมวดหมู่ของประเภทมัลแวร์ เช่น "การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ที่แก้ไขแล้ว" หรือ "การแทรกเทมเพลตข้อผิดพลาด" ในกรณีเหล่านี้ แฮกเกอร์อาจใช้ไซต์ของคุณเพื่อทำให้ผู้เข้าชมของคุณติดเชื้อด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับหรือเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของพวกเขา ในการหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ โปรดไปที่ถูกแฮ็กด้วยมัลแวร์
- เว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กให้แสดงสแปมอาจมีคำว่า "ถูกแฮ็ก" แสดงอยู่ที่ส่วนหัวระดับบนสุด และตามด้วยหมวดหมู่ของประเภทการแฮ็ก เช่น "การแทรกเนื้อหา" ซึ่งแฮกเกอร์อาจแทรกหน้า ข้อความ หรือลิงก์ไว้ในไซต์ ในการหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ โปรดไปที่ประเมินความเสียหายจากสแปม
- เว็บไซต์ที่มี "การแจ้งเตือนฟิชชิง" ในศูนย์ข้อความของ Search Console อาจไม่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย เมื่อสร้างหน้าฟิชชิงบนเว็บไซต์ แฮกเกอร์จะใช้เว็บไซต์ในการรับรายละเอียดการเข้าสู่ระบบ รหัสผ่าน หรือรายละเอียดทางการเงินของผู้ใช้โดยการอำพรางตัวเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เนื่องจากการล้างฟิชชิงออกจะคล้ายคลึงกับสแปม ให้ไปที่ประเมินความเสียหายจากสแปม